วิธีการเลือกเสื้อผ้าเด็ก
1 เพศของเด็ก
ในวัยแบเบาะ เด็กๆ ไม่ว่าเพศใดมักใส่เสื้อผ้าในแบบที่คล้ายกัน แต่อาจแตกต่างกันที่สีสัน เช่น เด็กผู้หญิง พ่อแม่อาจเลือกสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ เด็กผู้ชาย พ่อแม่มักเลือกเสื้อผ้าเด็กเป็นชุดสีฟ้า แต่เมื่อเด็กเรื่มโตขึ้นแบบชุดที่เลือกควรเหมาะสมกับเพศและวัยของลูก เพราะเสื้อผ้าบางชนิดถูกออกแบบให้เหมาะสมและสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็ก เช่น กางเกงในบางชนิดเหมาะกับเด็กผู้ชาย เพราะออกแบบให้สะดวกในการเข้าห้องน้ำ แต่ก็ทีเสื้อผ้าบางดีไซน์ บางสีสันที่สามารถใส่ได้ทั้งเด็กผู้หญิง และ เด็กผู้ชายด้วย
2 วัยของลูก
เด็ก ๆ ที่มีอายุต่างกันแม้เพียง 1ปีหรือ 2 ปี ก็มีขนาดตัวรวมถึงพัฒนาการที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่กำลังเติบโต และ พัฒนาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองเลือกเสื้อผ้าให้ลูกน้อยก็ต้องคำนึงถึงวัยของลูก ๆ ด้วย ในการซื้อเสื้อผ้า เสื้อผ้าหลายยี่ห้อทางโรงงานจะมีกำหนดไว้ที่ป้ายเสื้อผ้า ทั้งอายุของเด็ก ขนาดตัวของเด็กซึ่งเป็นจุดสังเกตเพื่อเลือกซื้อได้อีกทางหนึ่งด้วย
3 กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน
กิจกรรมที่เด็กๆ ทำในแต่ละวันนั้นสำหรับเด็กแต่ละคน และ สำหรับช่วงเวลาต่าง ๆ ก็แตกต่างกันไป เมื่อเลือกซื้อเสื้อผ้าก็ควรพิจารณาด้วย เช่น ชุดใส่นอน ขุดใส่อยู่บ้าน ชุดใส่ไปเที่ยวในวันยุดก็ย่อมต้องการลักษณะของชุดที่ต่างกันออกไป
4 สภาพภูมิอากาศ
อากาศที่ต่างกัน ทั้งเนื้อผ้าดีไซน์ของเสื้อผ้าสำหรับเด็ก ๆ ก็จะต้องเลือกให้เหมาะสมแตกต่างกันไป เพราะจะทำให้เด็ก ๆ สบายตัว มีสุขภาพที่แข็งแรงได้ เสื้อผ้าก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญเช่นกัน
5 ความชอบของเด็ก ๆ
เสื้อผ้าที่เลือกให้ลูกน้อยหากลูกของคุณมีซํญที่เริ่มรู้เรื่องหรือเริ่มโตขึ้น ควรให้พวกเด็ก ๆ ได้มีส่วนในการเลือกเสื้อผ้าบ้าง เพราะถ้าเด็ก ๆ ได้ใส่เสื้อผ้าที่ชอบก็จะมีความสุข เกิดความมั่นใจในตัวเอง
6 คุณภาพ เนื้อผ้าและราคา
คุณภาพของเสื้อผ้า และ ราคาก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย เสื้อผ้าเด็ก ๆ แม้จะมีจำนวนน้อยแต่ถ้ามีคุณภาพที่ดีก็เหมาะที่จะใช้ สามารถใส่ได้ดี ใส่ทนกว่าการมีเสื้อผ้ามากมายแต่คุณภาพไม่ดี เนื้อผ้าใส่ไม่สบาย และ ไม่ทนทานใส่ไม่นานก็ขาด
7.เสื้อผ้าเด็กควรใส่ได้หลายโอกาส
เสื้อผ้าเด็ก ส่วนมากจะถูกออกแบบให้น่ารัก ซึ่งชุดที่เห็นมีหลากหลายมาก บางชุดถูกออกแบบให้เป็นชุดแฟนซี ตามจินตนาการของผู้ใหญ่ เช่น ชุดนางฟ้า ชุดตัวละครในการ์ตูน ชุดเป็นรูปสัตว์น่ารัก ชุดสูท ซึ่งชุดเสื้อผ้าเด็กเหล่านี้ มักใช้ได้ในบางโอกาส และผ้าที่ตัดเย็บอาจใส่ไม่สบาย ไม่เหมาะกับอากาศของเมืองไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ร้อน ถึงร้อนมาก อีกทั้งเด็กมักจะโตเร็ว ใส่ได้ไม่กี่ครั้งก็ต้องเปลี่ยนขนาด ไซส์เสื้อผ้า และราคาชุดเสื้อผ้าเด็กที่กล่าวมาก็มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้พ่อแม่ต้องสิ้นเปลือง แต่ถ้าเราเลือกเสื้อผ้าเด็กที่ออกแบบมาให้ใส่ได้ทุกโอกาส ก็สามารถนำไปใช้ได้นาน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
8. ควรเลือกเสื้อผ้าเด็กที่ผลิตจากผ้าฝ้าย (Cotton) เป็นผ้าหลักของเสื้อผ้าเด็ก
ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เสื้อผ้าเด็กส่วนใหญ่มักจะทำมาจากผ้าฝ้าย (Cotton) แต่เสื้อผ้าเด็กบางชนิดก็ผลิตมาจากผ้าฝ้ายผสมกับผ้าชนิดอื่น เด็กช่วงอายุ 1-3 ขวบ เป็นวัยที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาและไม่อยู่นิ่ง และมักมีเหงื่อและสกปรกได้ง่าย เพราะเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ ซึ่งคุณสมบัติของผ้าฝ้ายเมื่อนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าเด็กแล้วจะมีคุณสมบัติในการระบายความร้อน และทนทานต่อการซัก (หนักๆ) ได้ดี ปัญหาเรื่องเสื้อหด เสื้อผ้าย้วยเสียทรงไม่ค่อยเกิดขึ้นกับเสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้าฝ้าย
การระบายความร้อนเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเสื้อผ้าเด็ก โดยเฉพาะในประเทศไทย อากาศกลางวันจะร้อนมาก และยิ่งมีฝนตกด้วย การตากผ้าวันฝนตกถือเป็นเรื่องกลุ้มใจของพ่อแม่เลยทีเดียว หากเสื้อผ้าไม่สามารถระบายความร้อนระบายเหงื่อได้ดี และยังแห้งช้า จะเกิดปัญหาผ้าเหม็นอับ หรือเสื้อผ้ามีกลิ่น ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของลูก