ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของ Huawei นาง เมิง หวางโจ ผู้ซึ่งเป็นบุตรสาวของของผู้ก่อตั้ง Huawei ถูกจับเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่แคนาดา และถูกทางการสหรัฐฯตั้งข้อหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้องและละเมิดข้อตกลงคว่ำบาตรในการเข้าไปทำธุรกิจกับอิหร่าน ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวมีขึ้นในสมัยที่ บารัค โอบามาเป็นประธานาธิบดี และ เป็นการคว่ำบาตรทางการค้าที่รวมไปถึงการขายอุปกรณ์โทรศัพท์ และ ระบบเครือข่าย
Huawei คือบริษัทผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนโทรศัพท์เจ้าใหญ่สัญชาติจีนที่มีมูลค่าการลงทุนนับหมื่นล้าน และ มีบริษัทลูกที่เป็นเครือข่ายของ Huawei ในการผลิตชิ้นส่วนโทรศัพท์ และ ผลิตโทรศัพท์ รวมไปถึงการผลิตซอร์ฟแวร์ ที่ใช้ควบคุมโทรศัพท์ หรือ OS ความยิ่งใหญ่ของ อาณาจักร Huawei นั้นไม่ใช่แค่บริษัทผลิตโทรศัพท์จากประเทศจีนเท่านั้นแต่บริษัทในเครือข่าย ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันทำให้ Huawei คือหนึ่งในสามของผู้ผลิต สมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลก อีกสองรายก็อย่างที่เรารู้กันอยู่คือ ซัมซุง และ แอปเปิ้ล
ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนของ Huawei นั้นได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง แต่อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์ของ Huawei เรียกได้ว่ามีความต้องการในหลายประเทศ แต่ในสหรัฐฯ นั้น Huawei ถูกแบน เนื่องจากในปี 2012 นั้นมีการกล่าวหาจากวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯว่า เทคโนโลยีของ Huawei อาจทำการล้วงข้อมูลลับของรัฐบาลสหรัฐฯได้ และทำให้ Huawei และ ZTE ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเสาสัญญาน 5G ของ Huawei ถูกแบนจากสหรัฐฯในเวลานี้ และมีอีกหลายประเทศที่กำลังพิจารณาจะแบนเทคโนโลยี 5G ของ Huawei รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่นด้วย
คำตอบคือไม่ใช่ การจับกุมนาง เมิง หวางโจว นั้นเป็นเรื่องที่ ทางการสหรัฐฯ กล่าวหานาง เมิง ว่ามีส่วนรู้เห็นในการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรทางการค้า ระหว่าง สหรัฐฯ และ อิหร่าน โดยมีหลักฐานว่า บริษัทในเครือ ของ Huawei อย่าง ZTE นั้นได้ขายอุปกรณ์โทรศัพท์ ให้กับอิหร่าน ซีเรีย เกาหลีเหนือ และ คิวบา
การเปิดเผยรายงาน ที่ Huawei ละเมิดข้อตกลงในการคว่ำบาตรมาตรการการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และ อิหร่าน และยังขายอุปกรณ์ ให้กับประเทศที่อยู่ในขั้วตรงกันข้ามกับ สหรัฐฯ และ พันธมิตร ทำให้ หลายประเทศเริ่มพิจารณาในการใช้ เทคโนโลยี 5G และอุปกรณ์สื่อสารของ Huawei ดังเช่นที่อังกฤษ เครือข่าย BT ได้ยกเลิกระบบเครือข่ายโทรศัพท์ของ Huawei ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2016 ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ MI6 (หน่วยสืบราชการลับอังกฤษ) เปิดเผยว่าได้มีการแจ้งไปยังรัฐบาลอังกฤษให้พิจารณาว่า เทคโนโลยี 5G ของ Huawei นั้นเหมาะสมหรือไม่ที่จะถูกนำมาใช้ในเวลานี้
ดังเช่นที่มีการเตือนกันในปี 2012 ว่า Huawei อาจใช้เทคโนโลยีในการล้วงข้อมูลทางราชการจากหลายประเทศด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ฝังรากอยู่ในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมี “ประตูหลัง” ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญโดยที่รัฐบาลแต่ละประเทศไม่อาจรู้ได้ ยิ่งความชัดเจนที่ว่า Huawei ทำการค้าอย่างไม่โปร่งใสกับประเทศที่มีกรณีพิพาทกับ สหรัฐฯ และ เหล่าพันธมิตร ทำให้เกิดกระแสความไม่ไว้วางใจเทคโนโลยีของ Huawei ขึ้นมา
ทาง Huawei ได้แจ้งอย่างเป็นทางการแล้วว่า ความวิตกเรื่องการจารกรรมข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่กังวลกันเกินจริง เพราะกฎหมายแต่ละประเทศก็ได้คุ้มครองข้อมูลผู้ใช้งานอยู่แล้ว และเป็นไปไม่ได้เลยที่ ทาง Huawei จะจารกรรมข้อมูลเพื่อส่งให้กับ รัฐบาลจีน เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และถ้าจะมีการแบนเทคโนโลยี 5G ของ Huawei ก็น่าจะเป็นเพราะความเข้าใจผิด และ น่าจะเกิดในเวลาอันสั้น
ที่มา : http://tonkit360.com