หลายๆคนที่ใช้งานกล้องติดรถยนต์ขณะจอดรถ มักจะเปิดฟังก์ชั่น Motion Detection
Mode เพื่อให้กล้องไม่ต้องบันทึกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้เปลืองแบตและเปลือง Memory คือ
จะให้บันทึกเฉพาะมีการเคลื่อนไหวหน้ากล้องเท่านั้น
ส่วนกล้องติดรถยนต์บางยี่ห้อ (ส่วนมากเกาหลี) จะมีฟังก์ชั่น Paringk Mode มาด้วย ซึ่งชื่อ
ก็บอกหน้าที่ชัดเจน คือใช้งานขณะจอดรถ
แล้วคำถามคือ..มันต่างกันอย่างไร?
มันต่างกันตรงที่ว่า Motion Detection Mode จะตรวจจับการเคลื่อนไหวหน้ากล้อง
ส่วน Park Mode จะตรวจจับการสะเทือนหรือกระแทกแล้วค่อยบันทึก ซึ่งทำให้มีข้อดีกว่าใน
เรื่อง Memory และการใช้แบตเตอรี่ เพราะไม่ต้องทำงาานบ่อยๆ (เฉพาะกรณีที่มีการเคลื่อนไหวผ่านกล้องบ่อยๆ แต่ถ้าจอดในที่มิดชิดไม่ค่อยมีอะไรผ่านหน้ากล้อง ก็จะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่)
แต่ในสถานการณ์บางอย่าง อย่างเช่น มีคนพยายามดูรอบๆรถแล้ว ก่อนที่จะทำอะไรกับรถ
ถ้าตั้งแบบ Motion Detection ก็จะช่วยให้ได้ภาพที่ชัดเจนกว่า
เพราะมีการถ่ายเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุ หรือพูดง่ายๆถ่ายตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เหมือน
Parking Mode ที่จะบันทึกเฉพาะที่รถเกิดการสั่นสะเทือนหรือกระแทกเท่านั้น
และนี่คือเหตุการณ์ตัวอย่าง ( กระทู้จากเว็บ pantip.com )
http://pantip.com/topic/30677341